พระราชบัญญัติงาช้าง พ.ศ. ๒๕๕๘
เพื่อให้เป็นไปตามกฏหมายดังกล่าว สมาชิกทุกท่านต้องอ่านทำความเข้าใจและปฏิบัติตามอย่างเคร่งคัด
เข้าสู่ระบบ
หน้าแรก
เก้าสิบเก้าวัด
ร้านพระเครื่อง
กระดานสนทนา
สมัครสมาชิก
ติดต่อทีมงาน
ค้นหาข้อมูล
เข้าสู่ระบบ
พระยอดขุนพลเสมา...
พระยอดขุนพลเสมาตัด เนื้อชิน กรุอาวาสน้อย กำแพงเพชร มีติดรางวัล
พระยอดขุนพลเสมาตัด จ.กำแพงเพชร
พระเครื่องที่ได้ชื่อว่า "ยอดขุนพล" มีอยู่ 3 เมืองที่โด่งดังมาแต่ในอดีต คือ พระยอดขุนพลชากังราว หรือ พระยอดขุนพลกำแพงเพชร พระยอดขุนพลอโยธยา (อยุธยา) และ พระยอดขุนพลกรุงละโว้ (ลพบุรี)
"เชียร ธีรศานต์" นักพระเครื่องอาวุโส และเป็นนักเขียนยุคแรกที่นำเรื่องราวของพระกรุเก่าต่าง ๆ มาลงพิมพ์เผยแพร่ จนกลายเป็นตำนานการจัดพิมพ์นิตยสารพระเครื่องมาจนถึงทุกวันนี้ ได้เคยเขียนถึง "พระยอดขุนพลชากังราว" นี้ว่า สมัยก่อนชาวบ้านเมืองกำแพงเพชรเรียกพระพิมพ์นี้ว่า "พระกำแพงเสมาตัด" เป็นพระพิมพ์หนึ่งที่แตกมาจากกรุทุ่งเศรษฐี ของเมืองกำแพงเพชร
การเรียกชื่อ "พระกำแพงเสมาตัด" ทำให้พระพิมพ์นี้ไม่เป็นที่น่าสนใจนัก ต่อมาวงการพระเครื่องทางกรุงเทพฯได้เรียกชื่อพระพิมพ์นี้เสียใหม่ว่า "พระยอดขุนพลชากังราว" หรือ "พระยอดขุนพลกำแพงเพชร" ทำให้รู้สึกว่าเป็นพระเครื่องที่น่าใช้ โดยเฉพาะบรรดาทหารหาญ นายตำรวจ ผู้นำทางธุรกิจ และชายชาตรีที่ชอบทางบู๊ เพราะชื่อ "ยอดขุนพล" เป็นจุดเด่นทางด้านคงกระพันชาตรี แคล้วคลาด ปลอดภัย จึงเกิดการแสวงหาพระพิมพ์นี้กันมากขึ้น ทำให้ราคาพระค่อย ๆ แพงขึ้นด้วย
ตามประวัติศาสตร์ "เมืองชากังราว" เป็นเมืองในอดีตที่ความเจริญรุ่งเรืองมากเมืองหนึ่ง ตั้งอยู่ในเมืองกำแพงเพชร แต่ไม่ทราบว่าอยู่ตรงส่วนไหน ฝั่งตะวันออกหรือฝั่งตะวันตกของแม่น้ำปิง ความเจริญนั้นอย่างน้อยก็อยู่ในยุคเชียงแสนหรือสุโขทัยช่วงที่รุ่งเรืองมาก ๆ
พระเครื่องที่เชื่อว่าสร้างในสมัยชากังราวแน่นอนก็คือ พระกำแพงซุ้มกอดำ ไม่มีกนก พิมพ์ใหญ่ ซึ่งพบทางฝั่งตะวันตกของแม่น้ำปิง ซึ่งก็คือ "ฝั่งทุ่งเศรษฐี" นั่นเอง พระเครื่องที่แตกกรุฝั่งนี้จะมีความเก่ากว่าและแพงกว่าฝั่งตรงกันข้าม
อย่างไรก็ตาม ยังมีผู้สันนิษฐานกันว่า "เมืองชากังราว" อาจจะมีทั้ง 2 ฝั่ง โดยมีแม่น้ำปิงไหลผ่านกลางเมืองก็ได้ ตามสภาพทางภูมิศาสตร์ ที่ดินโดยรอบเมืองกำแพงเพชร ล้วนเป็นสถานที่ตั้งวัดวาอารามมาแต่ในสมัยโบราณทั้งสิ้น เมื่อได้กลายเป็นที่ดินเอกชนในปัจจุบัน จึงไม่น่าแปลกใจที่บางครั้งชาวบ้านได้พัฒนาผืนดินเพื่อการเกษตร ขุดไปขุดมาไปพบ "กรุพระ" เข้าก็ได้ ต่อมาชาวบ้านไม่ได้คิดจะขุดดินเพื่อการเกษตรเสียแล้ว แต่กลับเป็น "ขุดดินเพื่อค้นหาพระเครื่อง" โดยตรงไปเลยก็มี
เมื่อเดือนมิถุนายน 2524 มีการขุดพบ "พระยอดขุนพล" ในบริเวณเดียวกับ พระกำแพงซุ้มกอ พิมพ์ใหญ่ ไม่มีกนก และมีกนก ซึ่งอาจจะมีการขุดพบในบริเวณอื่น ๆ อีกก็ได้
พระยอดขุนพลชากังราว นี้จะมีทั้ง เนื้อดิน และ เนื้อชิน สมัยก่อนไม่ค่อยมีราคา เพราะองค์พระมีขนาดใหญ่เกินไป ใช้เนื้อมวลสารมากเกินไป ทำให้องค์พระหนามาก เทอะทะ และการกดพิมพ์ไม่ลึกชัดมาก ทำให้ภาพขององค์พระเป็นแบบพิมพ์ตื้น ไม่ชัดเจนนัก
เหตุผลอีกประการหนึ่งคือ จำนวนพระมีน้อย พบเห็นได้ยาก ในขณะที่มีพระเครื่องพิมพ์อื่น ๆ สามารถหาได้ง่ายกว่ากัน และมีขนาดกะทัดรัด สะดวกต่อการเลี่ยมและคล้องคอ ผู้คนจึงหันไปสนใจพระกำแพงพิมพ์อื่น ๆ แทน
แต่...ในปัจจุบันมี พระปลอม ออกมามาก ไม่ว่าจะเป็นพระพิมพ์ใดกรุใดก็ตาม ทำให้นักสะสมบางคนหันมาให้ความสนใจในพระพิมพ์นี้แทน จึงทำให้พระพิมพ์นี้มีค่าราคาแพงขึ้นดังกล่าว
คำว่า "พระยอดขุนพล" ดูออกจะเหมาะสมกับพระพิมพ์นี้ ซึ่งสร้างล้อเลียน พระสมัยลพบุรี คือแบบเขมรผมหวี ที่เชื่อกันว่าเป็น พระเครื่องทางอำนาจ และ คงกระพันชาตรีสูง เหมาะอย่างยิ่งกับทหาร ตำรวจ ชายชาตรี และนักบู๊สู้ไม่ถอยทั้งหลาย หรือผู้มีอาชีพทางนักบริหาร เป็นผู้นำของปวงชนมาก ๆ
การที่องค์พระมีขนาดค่อนข้างใหญ่ ผู้สร้างจึงน่าจะมีเจตนาให้ใช้ แขวนเดี่ยว อันเป็นลักษณะของ "ผู้นำ" อย่างแท้จริง และมั่นใจในพุทธคุณทำนองว่า "ใช้องค์เดียวก็เหลือคุ้มแล้ว พุทธคุณจะต้องเลิศล้ำจริง ๆ "
องค์พระมี ซุ้มประดับ อย่างอลังการ แสดงให้เห็นถึงความยิ่งใหญ่ และเพียบพร้อมความอุดมสมบูรณ์ในด้านโภคทรัพย์ แสดงว่าเป็นพระที่สร้างในสมัยที่บ้านเมืองอยู่ดีกินดี มีความอุดมสมบูรณ์พูนผล มีความเจริญรุ่งเรืองมาก สิ่งนี้เป็นการหนุนเนื่องพุทธคุณทางด้านความร่ำรวย โชคลาภ และความพรั่งพร้อมในทรัพย์สินเงินทอง อีกทางหนึ่งด้วย
การออกแบบอย่างวิจิตรอลังการของ พระยอดขุนพลชากังราว ทำให้เข้าใจได้ว่า ผู้ออกแบบต้องเป็น "ช่างหลวง" ในราชสำนัก เพราะถ้าหากเป็น "ช่างชาวบ้าน" ความวิจิตรบรรจงจะไม่มี เป็นการออกแบบหยาบ ๆ และเมื่อเป็นเช่นนี้ ผู้สร้างพระพิมพ์นี้จะต้องเป็น พระมหากษัตริย์ อย่างแน่นอน และที่สำคัญ พระองค์ใหญ่ๆ อย่างนี้ราคาจะไม่แพงมากนัก อยู่ในหลักหมื่นต้นๆ เท่านั้น ถ้าเทียบกับอายุการสร้างแล้ว คุ้มค่ามาก ถ้าหากไม่เกี่ยงว่า องค์พระมีขนาดใหญ่ก็น่าจะลองหามาใช้แขวนเดี่ยวสักองค์หนึ่ง รับรองว่า
"ความเป็นชายชาตรีจะมีอยู่อย่างครบถ้วนในตัวเจ้าของพระองค์นี้"
(ข้อมูลจาก นสพ. คมชัดลึก)
ผู้เข้าชม
11177 ครั้ง
ราคา
xx,xxx
สถานะ
โชว์พระ
โดย
makara995
ชื่อร้าน
มะกะระ พระกรุ
ร้านค้า
makara.99wat.com
โทรศัพท์
0813116011
ไอดีไลน์
0818306399
บัญชีธนาคารยืนยันตัวตน
244-0-006xx-x
พระซุ้มนครโกษา กรุวัดนครโกษา
พระกริ่งวัดตรีทศเทพ องค์ที่1
พระถ้ำเสือ พิมพ์เล็กหน้าแก่ สุ
พระอู่ทองนั่งฐานบัวฟันปลา
พระท่ามะปรางค์กำแพงเพชร กรุวัด
พระวัดพลับพิมพ์สมาธิ มีใบเซอร
พระกำแพงเปิดโลกจิ๋ว ชินเงิน กร
พระร่วงนั่ง กรุช่างกล ลพบุรี
พระอู่ทองบัวสองชั้น กรุวัดราชบ
เก้าสิบเก้าวัด
ร้านพระเครื่อง
กระดานสนทนา
ลงพระฟรี
สมัครสมาชิก
ติดต่อทีมงาน
ลืมรหัสผ่าน
ผู้เข้าใช้งานล่าสุด
somphop
someman
อี๋ ล็อคเกต
fuchoo18
บี บุรีรัมย์
Chobdoysata
chaithawat
natthanet
ภูมิ IR
vanglanna
kaew กจ.
เทพจิระ
Le29Amulet
เปียโน
หริด์ เก้าแสน
supanporn
เพชร สารคาม
TotoTato
มนต์เมืองจันท์
ยอด วัดโพธิ์
BAINGERN
niyombucha
เธียร
pipat
โกหมู
ปราสาทมรกต
Achi
JO RAYONG
ระ คลองสาม
termboon
ผู้เข้าชมขณะนี้ 667 คน
เพิ่มข้อมูล
พระยอดขุนพลเสมาตัด เนื้อชิน กรุอาวาสน้อย กำแพงเพชร มีติดรางวัล
ส่งข้อความ
ชื่อพระเครื่อง
พระยอดขุนพลเสมาตัด เนื้อชิน กรุอาวาสน้อย กำแพงเพชร มีติดรางวัล
รายละเอียด
พระยอดขุนพลเสมาตัด จ.กำแพงเพชร
พระเครื่องที่ได้ชื่อว่า "ยอดขุนพล" มีอยู่ 3 เมืองที่โด่งดังมาแต่ในอดีต คือ พระยอดขุนพลชากังราว หรือ พระยอดขุนพลกำแพงเพชร พระยอดขุนพลอโยธยา (อยุธยา) และ พระยอดขุนพลกรุงละโว้ (ลพบุรี)
"เชียร ธีรศานต์" นักพระเครื่องอาวุโส และเป็นนักเขียนยุคแรกที่นำเรื่องราวของพระกรุเก่าต่าง ๆ มาลงพิมพ์เผยแพร่ จนกลายเป็นตำนานการจัดพิมพ์นิตยสารพระเครื่องมาจนถึงทุกวันนี้ ได้เคยเขียนถึง "พระยอดขุนพลชากังราว" นี้ว่า สมัยก่อนชาวบ้านเมืองกำแพงเพชรเรียกพระพิมพ์นี้ว่า "พระกำแพงเสมาตัด" เป็นพระพิมพ์หนึ่งที่แตกมาจากกรุทุ่งเศรษฐี ของเมืองกำแพงเพชร
การเรียกชื่อ "พระกำแพงเสมาตัด" ทำให้พระพิมพ์นี้ไม่เป็นที่น่าสนใจนัก ต่อมาวงการพระเครื่องทางกรุงเทพฯได้เรียกชื่อพระพิมพ์นี้เสียใหม่ว่า "พระยอดขุนพลชากังราว" หรือ "พระยอดขุนพลกำแพงเพชร" ทำให้รู้สึกว่าเป็นพระเครื่องที่น่าใช้ โดยเฉพาะบรรดาทหารหาญ นายตำรวจ ผู้นำทางธุรกิจ และชายชาตรีที่ชอบทางบู๊ เพราะชื่อ "ยอดขุนพล" เป็นจุดเด่นทางด้านคงกระพันชาตรี แคล้วคลาด ปลอดภัย จึงเกิดการแสวงหาพระพิมพ์นี้กันมากขึ้น ทำให้ราคาพระค่อย ๆ แพงขึ้นด้วย
ตามประวัติศาสตร์ "เมืองชากังราว" เป็นเมืองในอดีตที่ความเจริญรุ่งเรืองมากเมืองหนึ่ง ตั้งอยู่ในเมืองกำแพงเพชร แต่ไม่ทราบว่าอยู่ตรงส่วนไหน ฝั่งตะวันออกหรือฝั่งตะวันตกของแม่น้ำปิง ความเจริญนั้นอย่างน้อยก็อยู่ในยุคเชียงแสนหรือสุโขทัยช่วงที่รุ่งเรืองมาก ๆ
พระเครื่องที่เชื่อว่าสร้างในสมัยชากังราวแน่นอนก็คือ พระกำแพงซุ้มกอดำ ไม่มีกนก พิมพ์ใหญ่ ซึ่งพบทางฝั่งตะวันตกของแม่น้ำปิง ซึ่งก็คือ "ฝั่งทุ่งเศรษฐี" นั่นเอง พระเครื่องที่แตกกรุฝั่งนี้จะมีความเก่ากว่าและแพงกว่าฝั่งตรงกันข้าม
อย่างไรก็ตาม ยังมีผู้สันนิษฐานกันว่า "เมืองชากังราว" อาจจะมีทั้ง 2 ฝั่ง โดยมีแม่น้ำปิงไหลผ่านกลางเมืองก็ได้ ตามสภาพทางภูมิศาสตร์ ที่ดินโดยรอบเมืองกำแพงเพชร ล้วนเป็นสถานที่ตั้งวัดวาอารามมาแต่ในสมัยโบราณทั้งสิ้น เมื่อได้กลายเป็นที่ดินเอกชนในปัจจุบัน จึงไม่น่าแปลกใจที่บางครั้งชาวบ้านได้พัฒนาผืนดินเพื่อการเกษตร ขุดไปขุดมาไปพบ "กรุพระ" เข้าก็ได้ ต่อมาชาวบ้านไม่ได้คิดจะขุดดินเพื่อการเกษตรเสียแล้ว แต่กลับเป็น "ขุดดินเพื่อค้นหาพระเครื่อง" โดยตรงไปเลยก็มี
เมื่อเดือนมิถุนายน 2524 มีการขุดพบ "พระยอดขุนพล" ในบริเวณเดียวกับ พระกำแพงซุ้มกอ พิมพ์ใหญ่ ไม่มีกนก และมีกนก ซึ่งอาจจะมีการขุดพบในบริเวณอื่น ๆ อีกก็ได้
พระยอดขุนพลชากังราว นี้จะมีทั้ง เนื้อดิน และ เนื้อชิน สมัยก่อนไม่ค่อยมีราคา เพราะองค์พระมีขนาดใหญ่เกินไป ใช้เนื้อมวลสารมากเกินไป ทำให้องค์พระหนามาก เทอะทะ และการกดพิมพ์ไม่ลึกชัดมาก ทำให้ภาพขององค์พระเป็นแบบพิมพ์ตื้น ไม่ชัดเจนนัก
เหตุผลอีกประการหนึ่งคือ จำนวนพระมีน้อย พบเห็นได้ยาก ในขณะที่มีพระเครื่องพิมพ์อื่น ๆ สามารถหาได้ง่ายกว่ากัน และมีขนาดกะทัดรัด สะดวกต่อการเลี่ยมและคล้องคอ ผู้คนจึงหันไปสนใจพระกำแพงพิมพ์อื่น ๆ แทน
แต่...ในปัจจุบันมี พระปลอม ออกมามาก ไม่ว่าจะเป็นพระพิมพ์ใดกรุใดก็ตาม ทำให้นักสะสมบางคนหันมาให้ความสนใจในพระพิมพ์นี้แทน จึงทำให้พระพิมพ์นี้มีค่าราคาแพงขึ้นดังกล่าว
คำว่า "พระยอดขุนพล" ดูออกจะเหมาะสมกับพระพิมพ์นี้ ซึ่งสร้างล้อเลียน พระสมัยลพบุรี คือแบบเขมรผมหวี ที่เชื่อกันว่าเป็น พระเครื่องทางอำนาจ และ คงกระพันชาตรีสูง เหมาะอย่างยิ่งกับทหาร ตำรวจ ชายชาตรี และนักบู๊สู้ไม่ถอยทั้งหลาย หรือผู้มีอาชีพทางนักบริหาร เป็นผู้นำของปวงชนมาก ๆ
การที่องค์พระมีขนาดค่อนข้างใหญ่ ผู้สร้างจึงน่าจะมีเจตนาให้ใช้ แขวนเดี่ยว อันเป็นลักษณะของ "ผู้นำ" อย่างแท้จริง และมั่นใจในพุทธคุณทำนองว่า "ใช้องค์เดียวก็เหลือคุ้มแล้ว พุทธคุณจะต้องเลิศล้ำจริง ๆ "
องค์พระมี ซุ้มประดับ อย่างอลังการ แสดงให้เห็นถึงความยิ่งใหญ่ และเพียบพร้อมความอุดมสมบูรณ์ในด้านโภคทรัพย์ แสดงว่าเป็นพระที่สร้างในสมัยที่บ้านเมืองอยู่ดีกินดี มีความอุดมสมบูรณ์พูนผล มีความเจริญรุ่งเรืองมาก สิ่งนี้เป็นการหนุนเนื่องพุทธคุณทางด้านความร่ำรวย โชคลาภ และความพรั่งพร้อมในทรัพย์สินเงินทอง อีกทางหนึ่งด้วย
การออกแบบอย่างวิจิตรอลังการของ พระยอดขุนพลชากังราว ทำให้เข้าใจได้ว่า ผู้ออกแบบต้องเป็น "ช่างหลวง" ในราชสำนัก เพราะถ้าหากเป็น "ช่างชาวบ้าน" ความวิจิตรบรรจงจะไม่มี เป็นการออกแบบหยาบ ๆ และเมื่อเป็นเช่นนี้ ผู้สร้างพระพิมพ์นี้จะต้องเป็น พระมหากษัตริย์ อย่างแน่นอน และที่สำคัญ พระองค์ใหญ่ๆ อย่างนี้ราคาจะไม่แพงมากนัก อยู่ในหลักหมื่นต้นๆ เท่านั้น ถ้าเทียบกับอายุการสร้างแล้ว คุ้มค่ามาก ถ้าหากไม่เกี่ยงว่า องค์พระมีขนาดใหญ่ก็น่าจะลองหามาใช้แขวนเดี่ยวสักองค์หนึ่ง รับรองว่า
"ความเป็นชายชาตรีจะมีอยู่อย่างครบถ้วนในตัวเจ้าของพระองค์นี้"
(ข้อมูลจาก นสพ. คมชัดลึก)
ราคาปัจจุบัน
xx,xxx
จำนวนผู้เข้าชม
11687 ครั้ง
สถานะ
โชว์พระ
โดย
makara995
ชื่อร้าน
มะกะระ พระกรุ
URL
http://www.makara.99wat.com
เบอร์โทรศัพท์
0813116011
ID LINE
0818306399
บัญชีธนาคารยืนยันตัวตน
1. ธนาคารกรุงเทพ / 244-0-006xx-x
กำลังโหลดข้อมูล
หน้าแรกลงพระฟรี